หนึ่งในความท้าทายร่วมสมัยของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่พูดถึงกันมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้คือ การออกแบบและพัฒนา ‘พื้นที่ที่เข้าถึงความต้องการของทุกคน’ โดยเฉพาะในโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ที่ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้ชีวิตในทำเลใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ ติดแนวรถไฟฟ้าใจกลางเมือง ที่มีจุดเด่นคือ พื้นที่ส่วนกลาง สภาพแวดล้อม ตลอดจนประสบการณ์การใช้งานในแต่ละสเปซแต่ละช่วงเวลา ที่รองรับทุกมิติความต้องการและอำนวยความสะดวกต่อการอยู่อาศัยร่วมกันของผู้คนได้อย่างสะดวกสบายและครบครัน
ข้อมูลจาก World Bank ปี 2023 มีการคาดการณ์ว่าผู้คนประมาณ 1 พันล้านคน หรือคิดเป็น 15% ของประชากรโลกดำรงชีวิตอยู่ภายใต้ข้อจำกัดบางประเภท (Disability) และในอนาคตเปอร์เซ็นต์นี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ท่ามกลางข้อเท็จจริงด้วยอายุของประชากรโลกที่ยืนยาวขึ้นจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ อัตราการเกิดที่ลดลงสวนทางแนวโน้มการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสังคมผู้สูงอายุ ความท้าทายเหล่านี้ จึงเป็นการผลักดันให้เกิดทั้งทางเลือกและโอกาสใหม่ในหลายธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น เมื่อพูดถึง ‘การออกแบบพื้นที่เพื่อทุกคน’ (Inclusive Living) ในคอนโดมิเนียมหนึ่งโครงการนั้น มีความซับซ้อนในการออกแบบที่มากกว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม บนความเชื่อว่า ‘ทุกคนล้วนมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน’ อาทิ ช่วงวัย ไลฟ์สไตล์ ความจำเป็นพิเศษทางกายภาพ หรือวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นต้น
ซึ่งหากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถทำความเข้าใจเงื่อนไขและความต้องการที่ซ่อนอยู่ของลูกค้า เพื่อเป็นพื้นฐานในการต่อยอดมาสู่การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้คนทุกเพศทุกวัย สามารถ ‘เลือก’ ใช้ชีวิตที่ดีและมีคุณภาพ บนพื้นที่อิสระ สภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและปลอดภัย ตลอดจนประสบการณ์ที่ถูกจัดสรรให้กับทุกกิจรรมของชีวิต รวมไปถึงตอบสนองการใช้ชีวิตที่มีข้อจำกัดของร่างกาย โดยที่ยังรักษาคุณค่าในตัวเองของทุกคนเอาไว้ ก็มีส่วนในการสร้างความเชื่อมั่นอันจะนำมาสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจ
เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้พันธกิจ EMPOWER LIVING กับคำมั่นสัญญาสำคัญ ‘ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้’ เดินหน้าทำงานอย่างทุ่มเทในการนำแนวคิดการพัฒนาพื้นที่รูปแบบใหม่ในการดำเนินชีวิต (New layout of Life) ภายใต้แนวคิด ‘INCLUSIVE LIVING’ การออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อทุกคนในโครงการคอนโดมิเนียม ที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงามในการดีไซน์ แต่มีฟังก์ชันการใช้งานที่เป็นมิตรกับทุกคน รองรับทุกความต้องการและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ก้าวแรกเข้าสู่โครงการ ที่ทุกคนจะสามารถ ‘เลือกสร้างความสุขในแบบที่ตนเองต้องการ’
ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปีแห่งความร่วมมือทางธุรกิจในการพัฒนาคอนโดมิเนียมในประเทศไทย บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรอย่าง บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) พันธมิตรจากญี่ปุ่น ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐานที่ดี และแนวคิดในการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นถึง ‘การออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานของคนทุกกลุ่ม’ โดยเฉพาะการดีไซน์พื้นที่สาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะอาคาร โรงแรม โครงการที่พักอาศัย สถานที่สำคัญต่างๆ ฯลฯ ที่เข้มข้นและจริงจัง
เอพี ไทยแลนด์ ได้นำหลากหลายแนวคิดจาก พันธมิตรอย่าง บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) มาพัฒนาเป็นแนวทางที่สามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์ ‘การออกแบบ…เพื่อทุกคน’ มีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ในการใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียมเอพี เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพในทุกมิติ และตอบสนองความต้องการให้กับผู้อยู่อาศัยโดยแท้จริง
THE PARKHOUSE NISHI SHINJUKU TOWER 60 โครงการคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ ใจกลาง มหานครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้การพัฒนาโดยบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) โครงการตั้งอยู่ห่างจากสถานี Shinjuku ประมาณ 1.2 กิโลเมตร เป็นอาคารสูง 60 ชั้น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น (จากการสำรวจในปี 2014) ประกอบด้วยห้องชุดจำนวน 953 ยูนิตคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ความโดดเด่นที่น่าสนใจ คือ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง (Facilities) เพื่อให้ทุกคนได้มีสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้โดยไม่เกิดอุปสรรคในการใช้ชีวิต นอกเหนือจากการออกแบบทางเดินในพื้นที่ส่วนกลาง ลิฟต์ ราวจับ และวัสดุปูพื้นชนิดพิเศษในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ของโครงการที่เอื้อต่อการใช้งานร่วมกันของผู้อาศัยหลากหลายช่วงวัย ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยร่วมกันแล้ว หนึ่งในฟังก์ชันที่น่าสนใจคือ การนำแนวคิด ENGAWA – MULTI GENERATION FACILITY การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง ที่มุ่งเน้นถึงการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันภายในโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่นี้ พื้นที่ส่วนกลางเพื่อใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน ให้ทุกวันของการพักอาศัยเป็น COMMUNITY ของการอยู่อาศัยที่มีความสุข ที่นี่จึงพัฒนาให้สามารถรองรับบุคคลได้ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงคุณพ่อคุณแม่ ตอบรับกับพฤติกรรม การใช้งานที่เหมาะสมกับการใช้งานร่วมกันของทุกคน
ยกตัวอย่าง การออกแบบพื้นที่ Common Area ที่เชื่อมโยงพื้นที่ทุกๆ ส่วนให้มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน จากการวางสเปซฟังก์ชันต่างๆ อาทิ Wooden Kid’s Plaza, Reading Corner, Library โดยที่ทุกๆ ส่วนแทรกผสานพื้นที่สำหรับการใช้งานร่วมกันและพื้นที่สำหรับมุมส่วนตัวไว้ให้สลับไปมา ทำให้ผู้อาศัยสามารถสัมผัสถึงการอยู่ร่วมกันในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ และเปิดแสงธรรมชาติเข้ามาสร้างความโปร่งโล่งภายในตัวอาคาร เป็นต้น
TOKYO TORCH Tokiwabashi Tower กับความโดดเด่นในการออกแบบ Public Space ส่วนกลางที่น่าสนใจ ที่คำนึงถึงองค์ประกอบภายใต้แนวคิด INCLUSIVE LIVING เพื่อการใช้งานร่วมกันของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดทางเดิน สัดส่วนพื้นที่ วัสดุ ราวจับ ไปจนถึงการดีไซน์ความลาดชัน สัญลักษณ์ เพื่อให้การเดินทางทุกรูปแบบสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างง่าย และใช้งานได้สะดวก อาทิ Ground Floor การออกแบบทางเข้าหลัก พร้อมวัสดุปูพื้นเบรลล์บล็อก (Braille Block) และวัสดุปูพื้นแผ่นปูกันลื่น Basement Floor ดีไซน์ทางลาดพร้อมติดตั้งราวจับพื้นที่เชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Landscape พื้นที่สีเขียวดีไซน์พิเศษ พร้อมดีไซน์ทางลาดและราวจับ ด้วยสัดส่วนที่กว้างขวางเพียงพอเพื่อความสะดวกในการใช้งานรถเข็นทุกประเภท เป็นต้น ห้องน้ำสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ราวจับ อุปกรณ์ฉุกเฉิน รวมถึงลิฟต์โดยสารขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับรถเข็น และปุ่มกดระดับพิเศษที่สามารถกดเรียก และเลือกชั้นได้อย่างสะดวกสำหรับทุกคน เป็นต้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง