หน่วยงานติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหภาพยุโรป (Copernicus Climate Change Service หรือ C3S ) รายงานเมื่อวานนี้ว่า พบอุณหภูมิมหาสมุทรทั่วโลกในเดือนที่แล้วอุ่นกว่าเดือนพฤษภาคมในปีอื่น ๆ ที่บันทึกย้อนหลังไปถึงศตวรรษที่ 19
จากข้อมูลของ C3S ระบุว่า อุณหภูมิของน้ำทะเลที่ระดับความลึกประมาณ 10 เมตรสูงกว่าอุณหภูมิในมหาสมุทรที่ไม่มีน้ำแข็งถึงหนึ่งในสี่องศาเซลเซียส ในเดือนพฤษภาคม โดยวัดจากค่าเฉลี่ยระหว่างปี 1991-2020
ซาแมนธา เบอร์เจสส์ รองผู้อำนวยการ C3S ระบุว่า แนวโน้วอุณหภูมิระยะยาวตลอดทั้งปีนี้ ทำให้น้ำผิวดินในมหาสมุทรมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 0.6 องศาเซลเซียสในรอบ 40 ปี
“นิวยอร์ก” คุณภาพอากาศเลวร้ายสุดในโลก จากพิษไฟป่าแคนาดา
มวลน้ำทะลักท่วมเคอร์ซอน ปชช. อพยพ-สัตว์ล้มตายหลายร้อย
นอกจากนี้ รองผู้อำนวยการ C3S ยังระบุด้วยว่า อุณหภูมิเหนือมหาสมุทรอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เช่นเดียวกับการพบเห็นสัญญาณเอลนีโญที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในแถบเส้นศูนย์สูตรของมหาสมุทรแปซิฟิก และย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติเป็นระยะๆ ของลมมหาสมุทร จะเร่งผลักดันทำให้โลกร้อนขึ้นอีก
สำหรับมหาสมุทรดูดซับหนึ่งในสี่ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ และมีร้อยละ 90 ของความร้อนส่วนเกินที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทั้งนี้คลื่นความร้อนในทะเลที่แผ่ขยายเป็นวงกว้างกำลังทำลายแนวปะการัง และระบบนิเวศ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปะการัง รวมถึงผู้คนหลายร้อยล้านคน
นอกจากนี้การแตกตัวอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็งขนาดใหญ่อาจทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นได้หลายสิบเมตร และความเป็นกรดของมหาสมุทรกำลังทำลายวงจรชีวิต และห่วงโซ่อาหารตั้งแต่เขตร้อนไปจนถึงขั้วโลก
และยิ่งไปกว่านั้น คือ มหาสมุทร รวมถึงป่าไม้และดิน ซึ่งดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์สร้างขึ้นในปริมาณที่มากขึ้น กำลังส่งสัญญาณให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ซึ่งตรงนี้อาจทำให้ความสามารถในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดน้อยลงคำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด