ความพร้อมของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะลงเล่นเกมนี้โดยไม่เปลี่ยนตัวผู้เล่นไปจากนัดที่แล้วมากนักโดยที่เวส บราวน์ ยังคงจะพลาดการลงสนามต่อไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบส่วนรุด ฟาน นิสเตลรอย น่าจะยังคงเป็นแค่ตัวสำรองต่อไปเนื่องจากหลุยส์ ซาฮา ระเบิดฟอร์มได้ดีเหลือเกินในนัดที่แล้วทีสามารถซัดประตูเวสต์ บรอมวิช ไปได้ทั้งสองลูก
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ นัดนี้สภาพทีมไม่ค่อยจะดีนักหลังจากที่โดนอัดแหลกมาเมื่อกลางสัปดาห์ นัดนี้ยังขาดตัวหลักอีกบานตะไทจากอาการบาดเจ็บโดยที่เอมิล เฮสกี้ย์ ยังเจ็บข้อเท้า คริส ซัตตั้น, เจมมี แคลปแฮม และมาร์ติน เทย์เลอร์ ก็ยังมีอาการเจ็บขาหนีบอยู่ ส่วนนักเตะอีกหลายๆ คนอย่างมุสซี่ อิซเซ็ต, ยีรี่ ยาโรซิค และจูเลียน เกรย์ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถลงสนามได้หรือไม่
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ทิม ฮาวเวิร์ด, แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, มิกาเอล ซิลแวสตร์, ปาทริซ เอวร่า, คีแรน ริชาร์ดสัน, คริสเตียโน โรนัลโด้, ไรอัน กิ๊กส์, จอห์น โอเชีย, ปาร์ค จี ซอง, เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย, หลุยส์ ซาฮา, จูเซ็ปเป้ รอสซี่
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ไมค์ เทย์เลอร์, นิโก้ เวเซ่น, มาริโอ เมลช็อต, มาร์คอส เพนเตอร์, อเล็กซ์ บรูซ, มาร์ติน เทย์เลอร์, มาร์ติน แลตก้า, เคนนี่ คันนิงแฮม, สแตน ลาซาริดิส, เดเมี่ยน จอห์นสัน, เจมี่ แคลปแฮม, เดวิด ดันน์, นีล คิลเคนนี่, เจอร์เมน เพนแนนท์, สตีเฟ่น คลีเมนซ์, เอมิล เฮสกีย์, มิเกล ฟอร์สเซลล์, ดัดลี่ย์ แคมป์เบลล์
ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยมาแล้ว 5 นัดติดต่อกันและยังต้องการชัยขนะต่อๆ ไปเพื่อที่จะรักษาตำแหน่งอันดับสองของตารางไว้ให้เหนียวแน่นเพื่อที่จะได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ ซึ่งต้องโคจรมาพบกับเบอร์มิงแฮม ของสตีฟ บรูซ อดีตนักเตะของทีมที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น และเพิ่งจะตกรอบเอฟเอ คัพ มาด้วยสกอร์มากถึง 7-0
นัดล่าสุดของแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นการบุกไปเอาชนะเวสต์ บรอมวิช อัลเบียนได้ 2-1 ซึ่งนั่นเป็นการเอาชนะคู่แข่งได้เป็นนัดที่ 333 ในพรีเมียร์ ลีก โดยทั้งหมดเป็นการลงเล่นภายใต้การทำทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการการคว้าชัยในบ้านเป็นนัดที่ 9 ติดด่อกันและยังต้องการที่จะทำอีก 1 ประตูเพื่อให้ครบ 7000 ประตูในลีกของสโมสรอีกด้วย
ผลงานการเจอกันของแมนฯ ยูไนเต็ดในการพบกับเบอร์มิงแฮม นั้นยอดเยี่ยมมาก 3 นัดล่าสุดที่พบกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด สามารถเอาชนะได้ทั้งหมดและยังไม่เสียประตูอีกด้วย
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ พกฟอร์มอันย่ำแย่มาเยือนถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ตอนนี้พวกเขากำลังต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การเล่นนอกบ้านของพวกเขายังทำได้ไม่ดีอีกด้วย โดยสามารถทำได้แค่ 1 คะแนนจาก 7 นัดทีมีคะแนนให้เก็บถึง 21 คะแนน นอกจากนี้ หลังจากเกมนี้ผ่านไป พวกเขายังต้องมาพบกับเกมหนักๆ อีกหลายเกม โดยพบกับทั้งเชลซี, โบลตัน, วีแกน และแอสตัน วิลล่า คู่แข่งร่วมเมือง
ผลงานนอกบ้านของพวกเขานั้นแทบจะว่าได้ว่าตรงกันข้ามกับผลงานในบ้านของแมนฯ ยูไนเต็ด เลยก็ว่าได้ โดยชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 9 นอกบ้าน ในขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะได้ 9 เสมอ 3 และแพ้ 1 ในบ้านตัวเอง
แมนฯ ยูไนเต็ด กับเบอร์มิงแฮม พบกันมาแล้ว 2 ครั้งในฤดูกาลนี้โดยการพบกันครั้งล่าสุดเป็นการพบกันในคาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งแมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะได้ 3-1 แต่ในลีกก่อนหน้านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้เพียงเสมอกับเบอร์มิงแฮม ไป 2-2
ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คว้าชัยชนะได้ถึง 10 นัด จาก 12 นัด รวมถึง 4 นัดล่าสุดที่สามารถชนะรวดมาด้วย
แพ้ 1 นัดจาก 7 นัดในทุกรายการแข่งขัน
ชนะ 5 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ ลีก
ทำประตูคู่แข่งได้ 8 นัดติดต่อกัน และทำสองประตูใน 3 นัดล่าสุด
มีเพียงเชลซี เท่านั้นที่แพ้น้อยกว่าแมนฯ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ ลีก
เป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลีก โดยทำไป 58 ประตูเท่ากับเชลซี
ทำประตูเฉลี่ยราว 2 ลูกต่อนัด
มีประตูเกิดขึ้นในเกมที่แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นถึง 87 ประตู
สามารถทำประตูแรกในเกมได้ถึง 19 นัดในพรีเมียร์ ลีก เป็นรองเพียงแค่เชลซี ที่ทำได้ 23 นัด
เป็นทีมที่เล่นครึ่งเวลาแรกได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ ลีก
สามาถรเอาชนะได้ 8 นัดรวด ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ไม่แพ้ในบ้านมา 10 นัดติดต่อกัน
สามารถทำประตูคู่แข่งได้ทุกนัดที่ได้ลงเล่นในบ้าน
ไม่เสียประตู 6 นัดจาก 9 นัดล่าสุดที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
เบอร์มิงแฮม ซิตี้
เอาชนะคู่แข่งได้ 1 นัดจาก 7 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก
แพ้ถึง 4 นัดจาก 6 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก
ต้องการที่จะทำประตูได้อีก 3 ลูกเพื่อที่จะเป็นการยิงครบ 150 ลูกในพรีเมียร์ลีก
ไม่เสมอ 0-0 มา 28 นัดติดต่อกันแล้ว
ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่สามารถทำคะแนนในลีกได้น้อยที่สุดเท่าที่เคยทำได้มา เทียบกับจำนวนนัดที่ลงเล่นเท่าๆ กันในปีก่อนๆ
ไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้ 15 นัดในลีก
เสียประตูแรกในเกมให้คู่ต่อสู้ไปทั้งหมด 19 นัด
ชนะนอกบ้านได้ 1 นัดจาก 12 นัดล่าสุด
ชนะนอกบ้านได้เพียง 2 นัดและทำประตูได้เพียง 14 ประตู
ไม่เสียประตูนอกบ้านแค่ 1 เกมในการพบกับซันเดอร์แลนด์
เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รุด ฟาน นิสเตลรอย ยังคงนำเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ ลีก ร่วมกับเธียร์รี่ อองรี ของอาร์เซนอล โดยทำไปแล้วคนละ 19 ประตูในลีก
รุด ฟาน นิสเตลรอย และเวย์น รูนี่ย์ ทำประตูรวมกันไปแล้ว 31 ประตูจากที่แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ 58 ประตู
รุด ต้องการอีก 2 ประตูเพื่อที่จะทำประตูครบ 150 ประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด
ถ้าริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นนัดที่ 400 ในชีวิตการค้าแข้งของเขากับ 4 สโมสร
เบอร์มิงแฮม ซิตี้
ถ้านิคกี้ บัตต์ ได้ลงเล่น จะเป็นการพบกับสโมสรเดิมของเขา
มุสซี่ อิซเซต ต้องการทำประตูอีก 2 ลูกเพื่อที่จะยิงครบ 50 ประตูในอาชีพ
ผลงานการพบกันเมือฤดูกาลที่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – 0 เบอร์มิงแฮม ซิตี้
5 กุมภาพันธ์ 2005
ผู้ตัดสิน เดอมอต กัลลาเกอร์
ผู้ทำประตู รอย คีน (น.55), เวย์น รูนี่ย์ (น.78)
ผลงานการพบกันในนัดแรกฤดูกาลนี้
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2 – 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
28 ธันวาคม 2005
ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
ผู้ทำประตู (เบอร์มิงแฮม) แคลพแฮม (น.18), พัลดินี่ (น.78)
ผู้ทำประตู (แมนฯ ยูไนเต็ด) ฟาน นิสเตลรอย (น.5), รูนี่ย์ (น.54)
ผลงานการพบกันทั้งหมด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 38 เบอร์มิงแฮม ชนะ 24 เสมอ 25
ในพรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 5 เบอร์มิงแฮม ชนะ 0 เสมอ 2
ผลงานการพบกันที่บ้านของแมนฯ ยูไนเต็ด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 26 เบอร์มิงแฮม ชนะ 9 เสมอ 8
ในพรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3 เบอร์มิงแฮม ชนะ 0 เสมอ 0
boom

By Dom